การเปรียบเทียบข้อมูลการนวด Sports massage, Swedish massage, Thai massage
ถึงแม้ว่าการนวดทุกประเภทในโลกนี้จะมีเป้าหมายในการผ่อนคลายกล้ามเนื้อและจิตใจเป็นหลักเหมือนกันหมด แต่ในรายละเอียดวิธีการนวดก็แตกต่างกันออกไปซึ่งทำให้ผลลัพทธ์ของการนวดแตกต่างกันออกไปบ้าง ในบทความนี้ได้รวบรวมการนวดที่นิยมในประเทศไทยมาเปรียบเทียบกันเพื่อช่วยให้ผู้อ่านเลือกการนวดที่ตรงกับความต้องการของตัวเองมากที่สุดโดยเนื้อหานำมาจากประสบการณ์ของผมบางส่วนผสมกับเนื้อหาทางเอกสารวิชาการ
1. ถิ่นกำเนิด
Sports massage: ประเทศฟินแลนด์
Swedish massage: ประเทศสวีเดน
Thai massage: ประเทศไทย
2. วิธีการนวด
Sports massage: นวดด้วยมือ นิ้ว และท่อนแขน
Swedish massage: นวดด้วยมือ นิ้ว และท่อนแขน
Thai massage: นวดด้วยแทบทุกส่วนของร่างกายได้แก่มือ นิ้ว ท่อนแขน ศอก สะโพก เข่า เท้า
3. การยืดกล้ามเนื้อ
Sports massage: ยืดกล้ามเนื้อที่จำเป็นตามชนิดกีฬา
Swedish massage: ไม่มี
Thai massage: ยืดกล้ามเนื้อตำมแบบฉบับการนวดแผนไทย
4. การดัดข้อ
Sports massage: ไม่มี
Swedish massage: ไม่มี
Thai massage: มีการดัดกระดูกสันหลังเล็กน้อย
5. นวดพังผืด (myofascial fascia release)
Sports massage: มี
Swedish massage: มี
Thai massage: ไม่มี
6. ประคบร้อน/เย็น
Sports massage: ไม่มี
Swedish massage: ไม่มี
Thai massage: มีการประคบร้อนผ่านลูกประคบสมุนไพรเป็นตัวเลือกที่ผู้รับบริการเลือกได้
7. รูปแบบการนวด
Sports massage: ไม่มีรูปแบบที่ตายตัว ปรับตามประเภทกีฬา สภาพนักกีฬา และสถานการณ์ ณ เวลานั้น
Swedish massage: มีรูปแบบการนวดค่อนข้างตายตัว แต่สามารถปรับเปลี่ยนได้พอสมควรเพื่อตามความเหมาะสม
Thai massage: มีรูปแบบการนวดที่ตายตัว แต่พอจะปรับเปลี่ยนได้บ้างเพื่อความเหมาะสม
8. ลักษณะเด่นพิเศษ
Sports massage: นวดกล้ามเนื้อตามที่ชนิดกีฬาใช้, ประกอบไปด้วยการนวดกระตุ้นก่อนแข่ง (preevent), นวดรักษาความสดชื่นระหว่างแข่ง (interevent) และนวดเพื่อการฟื้นตัวหลังแข่ง (postevemt)
Swedish massage: เป็นการนวดเพื่อผ่อนคลายอย่างแท้จริงในบรรยากาศชวนหลับไหลเคลิ้มไปกับการนวดที่อ่อนโยน จึงทำให้กล้่มเนื้อคลายตัวและหย่อยตัวได้ดีมาก, ไม่เหมาะที่จะใช้นวดก่อนซ้อมหรือแข่งกีฬาจึงเหมาะที่จะใช้หลังจากการซ้อมหรือแข่งเท่านั้นหรือใช้ช่วงปิดฤดูกาล
Thai massage: มีการนวด 2 แบบคือแบบทั่วไปและแบบราชสำนัก, เป็นการนวดเพื่อผ่อนคลาย ตามประสบการณ์ของผมเปรียบเทียบแล้วจะได้รับน้ำหนักการนวดมากกว่าการนวด Swedish, มีการนวดทั้งนอนคว่ำ นอนหงาย นอนตะแคง และนั่ง, ใช้เทคนิคการเหยียบด้วยเท้าร่วมด้วย, ไม่เหมาะที่จะใช้นวดก่อนซ้อมหรือแข่งกีฬา
9. ระยะเวลาในการนวด
Sports massage: ไม่เกิน 20 นาที
Swedish massage: ประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง
Thai massage: ประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง
10. ผลของการนวด
Sports massage: ผ่อนคลายกล้ามเนื้อและจิตใจ, ป้องกันการหดสั้นของกล้ามเนื้อที่จำเป็นตามชนิดกีฬา, ลดการเจ็บปวดและระบมกล้ามเนื้อ, เสียแรงตึงตัวของกล้ามเนื้อไม่มาก, เพิ่มความยืดหยุ่นของพังผืด
Swedish massage: ผ่อนคลายกล้ามเนื้อและจิตใจ, ลดการเจ็บปวดและระบมกล้ามเนื้อ, มีโอกาสเสียแรงตึงตัวของกล้ามเนื้อมากกว่า sports massage, เพิ่มความยืดหยุ่นของพังผืด
Thai massage: ผ่อนคลายกล้ามเนื้อและจิตใจ, ป้องกันการหดสั้นของกล้ามเนื้อบางมัด, ลดการเจ็บปวดและระบมกล้ามเนื้อ, มีโอกาสเสียแรงตึงตัวของกล้ามเนื้อมากกว่า sports massage
11. กลุ่มลูกค้า
Sports massage: นักกีฬา
Swedish massage: นักกีฬาโดยเฉพาะช่วงปิดฤดูกาลแข่งขัน, คนทั่วไปเช่น office syndrome, ผู้ป่วยทั่วไปที่ไม่มีข้อห้ามหรือสามารถควบคุมโรคได้แล้วเช่นผู้ป่วยอัมพาตอัมพฤกษ์เพื่อลดอาการเกร็งแต่ต้องนวดด้วยความระมัดระวัง
Thai massage: นักกีฬาโดยเฉพาะช่วงปิดฤดูกาลแข่งขัน, คนทั่วไปเช่น office syndrome, ผู้ป่วยทั่วไปที่ไม่มีข้อห้ามหรือสามารถควบคุมโรคได้แล้วเช่นผู้ป่วยอัมพาตอัมพฤกษ์เพื่อลดอาการเกร็งแต่ต้องนวดด้วยความระมัดระวัง
เนื้อหาทั้งหมดไม่สามารถเปรียบเทียบเรื่องราคาได้เนื่องจากการตั้งราคามีความแตกต่างจำเพาะในแต่ละสถานที่ หากผู้อ่านเป็นนักกีฬาอาชีพที่อยู่ในช่วงฤดูกาลแข่งขัน ผมอยากแนะนำให้ใช้การนวด sports massage ไปก่อน และสามารถใช้การนวดอื่นๆเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจในช่วงปิดฤดูกาล ส่วนผู้อ่านที่ไม่ใช่นักกีฬาอาชีพหรือเล่นกีฬาเพื่อสุขภาพและสังคมสามารถเลือกการนวดแบบไหนก็ได้ตามชอบใจ หากชอบการนวดที่หนักหน่อยแบบถึงอกถึงใจ ตามประสบการณ์ผมขอแนะนำนวดไทย ส่วนคนที่กล้ามเนื้อน้อยหรือไม่ชอบการนวดหนักๆก็ขอแนะนำการนวด Swedish
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น